เริ่มด้วยการรวมกลุ่มในรูปของชมรมแม่บ้าน ซึ่งสามีรับราชการอยู่ในกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2524 และได้รับอนุญาตจัดตั้งเป็น"สมาคมแม่บ้านมหาดไทย" เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2525
โดยใช้ดอกแก้วเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมฯ เนื่องจาก "ดอกแก้ว" เป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงโปรด วัตถุประสงค์ของสมาคมฯ เพื่อส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคี อุปการะซึ่งกันและกันระหว่างแม่บ้านมหาดไทย เป็นศูนย์รวมความคิดเห็น การปฏิบัติงานของกลุ่มแม่บ้านมหาดไทย พร้อมทั้งพัฒนาบุคลิกภาพ โดยส่งเสริมการศึกษา สุขภาพอนามัย การกีฬาบันเทิง ศีลธรรมจรรยา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มแม่บ้านมหาดไทย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในด้านสวัสดิภาพความเป็นอยู่ และความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันของครอบครัวข้าราชการกระทรวงมหาดไทย
ด้วยแม่บ้านมหาดไทยมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ในอันที่จักเสริมสร้างและดำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างแม่บ้านมหาดไทย กับทั้งจะได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงได้จัดทำข้อบังคับฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักในการดำเนินภารกิจตามเจตนารมณ์ของสมาชิก ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้จัดตั้งสมาคมขึ้น เรียกว่า "สมาคมแม่บ้านมหาดไทย" หรือเรียกโดยย่อว่า "สมาคม มมท."
ข้อ 2 ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2560
ข้อ 3 ที่ตั้งของสมาคม ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ แขวงราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานครมหานคร
ข้อ 4 (1) เครื่องหมาย เป็นเข็มกลัดหรือตราสัญลักษณ์รูปวงกลมมียอดแหลมเป็นลายกระหนก พื้นน้ำเงินเข้มเป็นรูปสิงห์สีทองอยู่ตรงกลาง ขอบสีทอง และคำว่า "แม่บ้านมหาดไทย" เป็นสีทอง อยู่บนพื้นขาว
(2) เครื่องแบบ กระโปรงสีน้ำเงินเข้ม เสื้อพื้นสีน้ำเงินเข้ม ลายดอกแก้วขาว
ข้อ 5 ในระเบียบข้อบังคับนี้สมาคม หมายความว่า สมาคมแม่บ้านมหาดไทย
คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการบริหารแม่บ้านมหาดไทย
คณะผู้ริเริ่ม หมายความว่า คณะผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
แม่บ้านมหาดไทย หมายความว่า คู่สมรสของข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงาน รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ผู้บริหาร สมาชิก และพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้หมายความรวมถึงข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯผู้บริหาร สมาชิก และพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นสตรีด้วย
ข้อ 6 วัตถุประสงค์ของสมาคม มีดังต่อไปนี้
(1) ส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคี และอุปการะซึ่งกันระหว่างแม่บ้านมหาดไทย(2) เป็นศูนย์รวมความคิดเห็นและปฏิบัติงานของกลุ่มแม่บ้านมหาดไทย
(3) พัฒนาบุคลิกภาพ โดยส่งเสริมการศึกษา สุขภาพอนามัย และการกีฬา บันเทิง ศีลธรรมจรรยา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มแม่บ้านมหาดไทย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในด้านสวัสดิภาพความเป็นอยู่ และความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันของครอบครัวข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย
(4) ปฏิบัติงานในทางที่จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ ฐานะ และเสถียรภาพของเหล่าแม่บ้านกระทรวงมหาดไทย(5) จัดหาทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษา และพัฒนาแม่บ้านผู้น้อย
(6) จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
(7) สมาคมนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ข้อ 7 สมาชิกสมาคม มี 3 ประเภท คือ
(1) สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ คู่สมรสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คู่สมรสของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้มีอุปการคุณ หรือทำประโยชน์ให้แก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการส่วนใหญ่ลงความเห็นสมควรเชิญเข้าเป็นสมาชิก
(2) สมาชิกสามัญ ได้แก่ แม่บ้านมหาดไทยที่สมัครเป็นสมาชิกตามข้อ 8
(3) สมาชิกสมทบ ได้แก่ บุคคลที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ข้อ 8 การสมัครเป็นสมาชิก
(1) ผู้สมัครเป็นสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย ต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่สมาคมกำหนดต่อนายทะเบียน
(2) ผู้สมัครเป็นสมาชิกต้องชำระค่าบำรุง ดังนี้
- สมาชิกสามัญ ตลอดชีพ 500 บาท
- สมาชิกสมทบ ชำระครั้งเดียว 1,000 บาท
ข้อ 9 สมาชิกของสมาคมมีสิทธิและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) สมาชิกของสมาคมมีสิทธิ์เข้าร่วมกิจการของสมาคม และได้รับประโยชน์ตามที่สมาคมจะอำนวยให้ได้ตามวัตถุประสงค์ ตามข้อบังคับ และโอกาสอันเท่าเทียมกัน
(2) แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสมาคม ส่งไปยังคณะกรรมการเจ้าหน้าที่นำเสนอต่อสมาคมเพื่อวินิจฉัย หรือขอให้นำเข้าปรึกษาในที่ประชุมคณะกรรมการได้
(3) มีความรับผิดชอบต่อสมาคมในด้านคุณธรรม การชำระหนี้สินใดๆ อันสมาชิกต้องชำระตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม
(4) มีสิทธิประดับเครื่องหมายของสมาคม
(5) เสนอความเห็นเกี่ยวกับความเจริญของสมาคมต่อนายก หรือกรรมการได้
ข้อ 10 สมาชิกภาพจะสิ้นสุดลงเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ที่ประชุมใหญ่ลงมติไม่ไว้วางใจ โดยคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุม เพราะเหตุ
ก. ประพฤติผิดศีลธรรมอันดีงาม
ข. ประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งนำมาซึ่งความเสื่อมเสียให้แก่สมาคม
ข้อ 11 ให้สมาคมมีคณะกรรมการจำนวน 2 คณะ คือ คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการกลาง
(1) คณะกรรมการบริหาร มีองค์ประกอบ ดังนี้
(1.1) คณะกรรมการบริหารโดยตำแหน่ง ประกอบด้วย คู่สมรสของปลัดกระทรวง มหาดไทย เป็นนายกสมาคมโดยตำแหน่ง และเป็นประธานคณะกรรมการ คู่สมรสของรองปลัดกระทรวงมหาดไทย คู่สมรสของอธิบดี คู่สมรสของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย คู่สมรสของที่ปรึกษา(ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ) คู่สมรสของหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ
(1.2) สมาชิกที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่เห็นชอบให้เป็นกรรมการโดยเมื่อรวมกับกรรมการตาม (1.1) มีจำนวนไม่เกิน 52 คน
ในกรณีที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยไม่มีคู่สมรส หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกสมาคมได้ ให้คู่สมรสของรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่อาวุโสตามลำดับเป็นนายกสมาคม
(2) กรรมการกลาง มีจำนวนเท่ากับจังหวัด ให้คู่สมรสของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นกรรมการกลางโดยตำแหน่ง และมีตำแหน่งเป็นประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนั้นๆ ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีคู่สมรสหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้และไม่ประสงค์จะรับตำแหน่งเอง ให้คู่สมรสของรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่อาวุโสตามลำดับทำหน้าที่เป็นประธานแม่บ้านมหาดไทยของจังหวัดนั้นๆ"
ข้อ 12 ให้นายกสมาคมคัดเลือกกรรมการบริหารตามจำนวนที่เห็นสมควรเป็นอุปนายกสมาคม รวมทั้งแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้
(1) เลขานุการ
(2) เหรัญญิก
(3) นายทะเบียน
(4) ปฏิคม
(5) ประชาสัมพันธ์
(6) ตำแหน่งอื่นๆที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ข้อ 13 ให้กรรมการบริหารมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี แต่อาจได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอีกได้ ถ้ากรรมการตำแหน่งใดว่างลงก่อนครบกำหนด ก็ให้เลือกกรรมการใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างนั้นให้ครบจำนวน และให้ดำรงตำแหน่งได้เท่ากับระยะเวลาของผู้ที่ตนเข้ามาแทน หากนายกสมาคมพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการบริหาร ให้ถือว่ากรรมการบริหารนั้นสิ้นสุดลงพร้อมกับนายกสมาคมด้วย
ข้อ14 ในกรณีที่คณะกรรมการพ้นจากตำแหน่งตามข้อ 13 ให้คณะกรรมการชุดเดิมบริหารงานไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะเข้ามารับหน้าที่ และเมื่อมีคณะกรรมการชุดใหม่แล้ว ให้ดำเนินการส่งมอบหน้าที่การงานกันให้แล้วเสร็จภายในเวลาอันควร นับแต่วันที่คณะกรรมการชุดเดิมพ้นจากตำแหน่ง
ข้อ 15 กรรมการกลางมีหน้าที่ให้ความคิดเห็นในเรื่องที่นายกสมาคมหรือคณะกรรมการบริหารเชิญประชุม
ข้อ 16 อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหาร
(1) กำหนดนโยบาย วางโครงการ และระเบียบวิธีการต่างๆ รวมทั้งรับผิดชอบควบคุมการบริหารงานของสมาคมให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์
(2) รับพิจารณาข้อเสนอของสมาชิก และอนุมัติให้มีการดำเนินงาน เมื่อพิจารณาให้เห็น ว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
(3) กำหนดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาคมหรือส่วนรวม
(4) ถอนชื่อสมาชิกออกจากทะเบียนตามความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ซึ่งมีมติตามข้อ 10 (2)
ข้อ 17 นายกสมาคมมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมกิจการของสมาคม บริหารกิจการทั้งปวง ในนามของสมาคม เป็นผู้แทนของสมาคมในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก มีหน้าที่เรียกประชุมใหญ่ ประชุมคณะกรรมการบริหาร เป็นประธานในการประชุมทุกครั้ง แต่งตั้งถอดถอนกรรมการ เจ้าหน้าที่ตำแหน่งต่างๆ ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหาร
ข้อ 18 ให้อุปนายกมีหน้าที่ช่วยเหลือนายกสมาคมในการปฏิบัติหน้าที่ และการบริหารงานของสมาคมหรือปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อตำแหน่งนายกฯ ว่างลง หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยให้อุปนายกสมาคมปฏิบัติหน้าที่แทน ตามลำดับอาวุโส
ข้อ 19 คณะกรรมการบริหารอาจพิจารณาแต่งตั้งสมาชิกเป็นกรรมการผู้ช่วยตามจำนวน ซึ่งคณะกรรมการบริหารเห็นสมควร และมีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะ เพื่อดำเนินการเฉพาะกิจของสมาคมภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการบริหาร
ข้อ 20 ให้คู่สมรสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคู่สมรสรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้มีอุปการคุณหรือทำประโยชน์แก่สมาคมซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควร เป็นที่ปรึกษา
ข้อ 21 ให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อทำงานของสมาคม โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยตำแหน่งต่างๆ ดังนี้
(1) เลขานุการ
(2) เหรัญญิก
(3) นายทะเบียน
(4) ปฏิคม
(5) ประชาสัมพันธ์
(6) ตำแหน่งอื่นๆที่คณะกรรมการเห็นสมควร
เมื่อมีคำสั่งตั้งคณะทำงานแล้ว ให้รายงานพร้อมแนบคำสั่งให้คณะกรรมการทราบ
ข้อ 22 ให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้กำหนดว่า ครั้งใดจะประชุม ณ ที่ใด แล้วให้เลขานุการแจ้งสมาชิกทราบ
ข้อ 23 การออกเสียงลงมติในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ให้ลงมติโดยเปิดเผย เว้นแต่ที่ประชุมมีมติให้ออกเสียงโดยวิธีลับ และในการออกเสียงให้ถือเสียงข้างมากของผู้เข้าประชุม หากคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานออกเสียงเพิ่มอีก 1 เสียง
ข้อ 24 ในการประชุมทุกครั้งให้บันทึกรายงานการประชุม และให้ประธานที่ประชุมลงนามกำกับ
ข้อ 25 ในการประชุมสมาชิกสมาคม ให้นายกสมาคมเป็นประธานในที่ประชุม หากนายกไม่อยู่ หรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ให้อุปนายก ทำหน้าที่แทนตามลำดับอาวุโส
ข้อ 26 ให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อพิจารณาการดำเนินกิจการของสมาคม ในกรณีจำเป็นนายกฯ อาจเรียกประชุมพิเศษได้ ในการประชุมคณะกรรมการนี้ต้องมีกรรมการเข้าประชุมเกินกว่าครึ่งหนึ่งจึงจะครบองค์ประชุม
ข้อ 27 สมาคมอาจมีรายได้
(1) การบริจาค
(2) กิจกรรมที่สมาคมจัดให้มีขึ้น
(3) ค่าบำรุงสมาคม
(4) อื่นๆ
ข้อ 28 การจ่ายเงินต้องได้รับการอนุมัติเบิกจ่ายเงินจากนายกสมาคม หรืออุปนายกสมาคม ตามอำนาจที่นายกสมาคมมอบหมาย
ข้อ 29 การเบิกจ่ายเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคมกับเหรัญญิกทุกครั้ง และนายกสมาคมมีสิทธิเบิกจ่ายเงินได้ทันทีครั้งละไม่เกิน 500,000 บาท ถ้าเกินกว่านั้น ให้ขออนุมัติจากคณะกรรมการก่อนเบิกจ่าย
ข้อ 30 ให้มีบัญชีแสดงที่ได้รับและที่จ่ายไปโดยแท้จริงของสมาคม ตลอดจนรายละเอียดของรายรับที่แสดงต่อที่ประชุมใหญ่ทุกครั้งที่มีการประชุม
ข้อ 31 ให้เหรัญญิกจัดทำสมุดบัญชีและงบดุลเสนอให้ผู้สอบบัญชีตรวจและรับรองภายในรอบระยะเวลาบัญชีตามปีงบประมาณและเก็บรักษาไว้ มิให้สูญหาย สำหรับเงินที่มีเหลืออยู่ให้นำฝากธนาคารหรือสถาบันการเงินและให้เหรัญญิกถือเงินสดได้ครั้งละไม่เกิน 30,000 บาท
ข้อ 32 ข้อบังคับนี้อาจแก้ไขเพิ่มเติมได้โดยมติที่ประชุมใหญ่ โดยมีคะแนนเสียงสองในสามของจำนวนสมาชิกที่เข้าประชุม
ข้อ 33 สมาคมนี้ย่อมเลิกได้ โดยมติที่ประชุมใหญ่ให้เลิกด้วยคะแนนเสียงสามในสี่ของจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม
ข้อ 34 เมื่อในที่ประชุมมีมติให้เลิก ต้องจัดให้มีการชำระบัญชี เมื่อทรัพย์สินอยู่เท่าใดให้โอนให้แก่มูลนิธิอาสารักษาดินแดน
-------------------------------------------------------------------
เพื่อให้การดำเนินกิจการของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และข้อบังคับของสมาคม เป็นการลดขั้นตอนการปฏิบัติ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานสมาคมให้เกิดความคล่องตัว
อาศัยอำนาจตามข้อ 16 ข้อ 21 ข้อ 29 แห่งข้อบังคับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ครั้งที่ 3/2545 วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2545 คณะกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบสมาคมแม่บ้านมหาดไทยว่าด้วยการดำเนินกิจการสมาคมในเขตจังหวัด พ ศ. 2545"
ข้อ 2 ระเบียบนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด แต่งตั้งคณะทำงานตามข้อบังคับสมาคม ข้อ 21 เพื่อช่วยเหลืองานของสมาคมภายในเขตจังหวัด ตามแต่จะเห็นสมควร แต่อย่างน้อยต้องประกอบไปด้วย- เลขานุการ 1 คน
- เหรัญญิก 1 คน
- นายทะเบียน 1 คนการสมัครสมาชิกในเขตจังหวัด
ข้อ 4 ผู้มีความประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทย อาจยื่นต่อนายทะเบียนจังหวัด ตามข้อ 3
ข้อ 5 เมื่อนายทะเบียนจังหวัดได้รับใบสมัครซึ่งมีผู้ยื่นตาม ข้อ 4 ให้นายทะเบียนจังหวัดตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร และแจ้งการตอบรับเป็นสมาชิกให้ผู้นั้นทราบ และลงทะเบียนในเขตจังหวัดไว้เป็นหลักฐานการเงินของสมาคมในจังหวัด
ข้อ 6 เงินรายได้ของสมาคมภายในเขตจังหวัด ให้นำฝากไว้ในบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ภายในเขตจังหวัดนั้น โดยใช้ชื่อบัญชี "สมาคมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัด....."และให้เหรัญญิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดถือเงินสดครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท
ข้อ 7 ให้ประธานแม่บ้านจังหวัดปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมในการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเบิกจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจัดทำบัญชีอันเกิดจากเงินรายได้และรายจ่ายของสมาคมในเขตจังหวัด โดยให้เหรัญญิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดช่วยเหลือเกี่ยวกับการเงินในกรณีดังกล่าว
ข้อ 8 การเบิกจ่ายเงินจากธนาคาร ตามข้อ 6 ต้องมีลายมือชื่อของประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดรวมกับเหรัญญิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกครั้ง
ข้อ 9 ให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดควบคุมทะเบียนสมาชิกของสมาคม และการเงินภายในจังหวัดให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบของสมาคมโดยเคร่งครัดและให้รายงานผลการดำเนินการของสมาคมภายในเขตจังหวัดให้สมาคมทราบทุกๆ 3 เดือน
ข้อ 10 กรณีหากเกิดความเสียหายขึ้นเกี่ยวกับกิจการของสมาคมภายในเขตจังหวัดให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายเสียก่อนคดีขาดอายุความ และรายงานให้สมาคมทราบโดยเร็ว